FB_IMG_1497705454131

#มีเพศสัมพันธ์ได้ก็เลี้ยงได้สิ

เอาจริงๆ นี่ไม่อยากจะให้มีเรื่องแบบนี้อยู่ในหน้า blog ของตัวเองเลยล่ะ แต่กระแสความร้อนแรงของ hashtag นี้ จะไม่พูดถึงเลยคงไม่ได้ ที่มีเด็กสาววัย 14-15 มากมายโพสรูปตัวเองตั้งครรภ์แล้วใส่ hashtag #เย××ได้ก็เลี้ยงได้สิ ประกอบภาพอย่างภาคภูมิใจ

จริงอยู่ว่าคีย์หลักของเด็กพวกนั้นคือจะบอกว่า ถ้าพลาดไปแล้วก็อย่าไปทำแท้งเลย ให้เก็บเด็กไว้แล้วเลี้ยงเองเถอะ

แต่ในเมื่อมีการโพสกันมากมาย เหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดาแล้วนั้น… มันทำให้คนวัยผู้ใหญ่อย่างเรารู้สึกแล้วว่า เอ๊ะ นี่มันไม่ใช่เรื่องปกติแล้วรึเปล่า?

ทำไมแม่วัยใสถึงมีมากมายขนาดนั้น?

คีย์หลักในเรื่องนี้ จริงๆควรจะเป็น ‘#เย××ได้ก็ต้องป้องกันได้สิ’ ไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมสังคมมันถึงบิดเบี้ยวจนกลายเป็น hashtag นั้นไปได้?

เพราะความประมาท เพราะความไม่รู้ หรือเพราะความคึกคะนอง?

หรือเด็กสาวเหล่านี้คิดว่า ‘แค่เลี้ยงเด็กคนนึงจะยากอะไรนักหนา’?

จริงๆ แล้ว เรื่องแบบนี้ ต้องบอกว่า ‘ไม่เจอกับตัวไม่มีวันรู้หรอก’

ยกตัวอย่างง่ายๆ เราเองก่อนจะมีลูก ก็ไม่เคยคิดหรอกนะว่าการเลี้ยงเด็กคนนึงมันจะหนักหนาสาหัส ก็คิดแบบง่ายๆอ่ะนะ เด็กหิวก็กินนมไง เด็กง่วงก็กล่อมนอน เด็กอึก็เช็ดก้น ไม่เห็นจะยาก

แต่พอได้มีลูกเองจริงๆแล้ว #มันไม่ง่ายเลย เด็กร้อง 1 ครั้ง เป็นได้ทั้งหิว ง่วงนอน ปวดท้อง ปวดหัว ปวดฟัน ฯลฯ แล้ววิธีการตอบสนองในแต่ละอย่างก็ไม่เหมือนกันอีก ซึ่งที่ยากคือ เด็กพูดกับเราไม่ได้ เราเลยไม่รู้ว่าเค้าเป็นอะไรและเราต้องทำอย่างไร

พูดถึงเรื่องนม อาหารพื้นฐานของเด็ก ถ้าอยากประหยัด และดีที่สุด ก็นมแม่ไง แต่ว่าไม่ใช่ว่าพอเด็กเกิดมาปุ๊บ คนเป็นแม่จะมีน้ำนมไหลปั๊บ คนนึงอาจมีน้ำนมไหลมาเทมา แต่บางคนพยายามแทบตายน้ำนมก็ไม่ไหลซักที ก็ต้องพยายามต้องกระตุ้นกันไป แล้วพอมีนมให้ลูกกินแล้ว ก็ใช่จะสบาย เด็กแรกเกิดต้องกินนมทุกๆ 2 ชม. คนเป็นแม่ก็ต้องลุกมาดูแลทุกๆ 2 ชม.เช่นกัน เที่ยงคืน ตีสอง ตีสี่ หกโมง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ ไหนยังมีเรื่องท่าอุ้ม เรื่องกัดนม เรื่องอาหารการกินของแม่ที่ต้องระวังไม่ให้กระทบผ่านไปถึงลูกทางน้ำนมอีก

แล้วถ้าเปลี่ยนไปใช้วิธีง่ายๆแทนล่ะ ให้กินนมผงแทนนมแม่ สะดวกสบายกว่ากันเยอะ แม่ไม่ต้องอุ้มเอง แต่ก็ต้องมาเสียแรงเสียเวลากับการล้างการเตรียมขวดนม แถมค่าใช้จ่ายเองก็เยอะตามเช่นกัน นมผงกระป๋องนึงราคาไม่ใช่น้อยๆ แล้วถ้าเกิดโชคร้าย เด็กเกิดแพ้นมวัว ก็ต้องไปหานมแพะ นมถั่ว ที่มีราคาแพงยิ่งกว่า เสียค่าใช้จ่ายมากมายไปกันใหญ่

ไหนจะค่าผ้าอ้อม ค่าแพมเพิส ค่ายา ค่าอาหาร ค่าเล่าเรียน ค่าของเล่น ฯลฯ

นี่ยังไม่พูดถึงการเลี้ยงดูเด็กแต่ละคนอีกนะ ว่าเวลาเด็กดื้อ เด็กไม่ฟัง เด็กไม่ยอม เด็กงอแง จะต้องทำอย่างไร

ตัวเราเอง ขนาดว่ามีลูกเมื่อพร้อมพอสมควรแล้วในทุกๆด้าน ทั้งวุฒิภาวะ สถานะการเงิน ความมั่นคงทางอาชีพการงาน มีบ้านเป็นของตัวเอง มีรถให้ขับ แต่สุดท้ายแล้ว เรายังคิดว่ายากเลย เพราะเราต้องไปทำงาน แล้วลูกเราล่ะ ตอนเล็กๆก็ต้องเอาไปฝากอาม่าเลี้ยง พอเข้าเรียนได้ก็ใช่จะสบาย ก็ต้องรีบไปรับกลับจาก รร. ให้ตรงเวลา ใช่ว่าพอมีลูกแล้วจะเลี้ยงเองได้ตลอดเวลาที่ไหนกัน นี่ถ้าไม่มีคนให้ฝากให้ช่วยเลี้ยง ต้องเลี้ยงเองทั้งหมด แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาใช้จ่าย สุดท้ายแล้วมันก็ไม่สามารถจะเลี้ยงเองได้ด้วยตัวคนเดียวหรอก

แล้วเด็กวัยรุ่นล่ะ? เรียนก็ยังไม่จบ เงินก็ไม่มี แล้วอย่างนี่ มีเพศสัมพันธ์ได้ใช่ว่าจะเลี้ยงเองได้ซะหน่อย

แล้วจะทำยังไงให้เด็กวัยรุ่นเข้าใจ?? นี่ล่ะปัญหาใหญ่ที่พวกเราที่เป็นผู้ใหญ่แล้วต้องมาช่วยกันคิดวิเคราะห์ว่าจะทำอย่างไรให้เด็กวัยรุ่นสมัยนี้ตระหนักได้ถึงความยากลำบากในการเลี้ยงลูกตามที่กล่าวมา แล้วหันมารักนวลสงวนตัว หรือเห็นความสำคัญของการป้องกันเมื่อมีเพศสัมพันธ์

เราจะปล่อยให้เด็กเหล่านี้ เค้าต้องเจอปัญหาเองกับตัวก่อนเพื่อให้เข้าใจได้เอง หรือจะช่วยพวกเค้าหาทางป้องกันก่อนที่จะสายเกินไป

ถ้าเอาตามความคิดเรา เริ่มแรกเลย เราควรปลูกฝังเรื่องการรักนวลสงวนตัวกันตั้งแต่เล็กๆ เลิกเถอะการส่งเสริมให้เด็กแต่งตัววับๆแวมๆ ส่วนเด็กผู้ชาย ก็ต้องสอนให้รู้จักการให้เกียรติผู้หญิงให้มาก ขนบธรรมเนียมที่เคยสั่งสอนกันมาแต่อดีต ไม่ใช่ว่าล้าหลัง แล้วจะทิ้งไป แต่ควรนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพสังคมปัจจุบัน

เรื่องเพศสัมพันธ์ก็ต้องสอนให้ดี ไม่ใช่เปิดเผยเสรีกันเกินไป ไม่ใช่สอนว่าทำได้เลยแต่ป้องกันด้วยนะ เปลี่ยนมาสอนกันใหม่ดีไหม ว่าช่วงอายุที่จะมีเพศสัมพันธ์กันได้คือเมื่อไหร่ และเวลาไหนคือช่วงเวลาที่เหมาะสมจะมีลูก

ผู้ใหญ่ทุกๆคน ถึงเวลาแล้วรึยังที่เราต้องหันมาซ่อมแซมสังคมไทย

Leave a comment