การเป็นพนักงานบริษัทในเมืองหลวง หลายๆคนอาจจะรู้สึกว่าชีวิตจะต้องดีแน่เลย แต่กับอียอลรึม พนักงานสาวออฟฟิศวัย 28 ปีที่ทำงานในสำนักพิมพ์ ตื่นแต่เช้าขึ้นไปเบียดในรถไฟฟ้า ตอนกลางวันก็หาซื้อข้าวถูกๆมาแอบนั่งกินคนเดียว ตลอดทั้งวันก็ต้องคอยเป็นเบ๊รับใช้หัวหน้าแม้กระทั่งถูกสั่งให้ล้างแก้วกาแฟให้ แถมยังถูกหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานหลอกให้ไปซื้อกาแฟเพื่อแย่งนำเสนอผลงานไปอีก ตกเย็นก็พาร่างอันสะบักสะบอมเบียดกลับเข้ารถไฟฟ้าและสลบสไลเมื่อถึงบ้าน ชีวิตวนเวียนอยู่อย่างนี้และดูเหมือนจะเป็นแบบนี้ต่อไปโดยไม่มีที่สิ้นสุด

แต่แล้ววันนึงเธอกลับถูกแฟนที่คบกันมาตั้งแต่เรียนบอกเลิก แถมแม่ที่เป็นเหมือนที่ยึดเหนี่ยวเพียงคนเดียวของเธอกลับมาตายจากไปอย่างกระทันหัน แม้ว่าเธอจะแข็งใจกลับมาทำงานได้อย่างเดิม แต่สิ่งที่เธอต้องพบเจอซ้ำซากในแต่ละวันก็ทำให้เธอใช้ชีวิตไปด้วยหัวใจที่แห้งผาก

ทว่า วันนึงในฤดูใบไม้ผลิ โชคชะตาได้พัดพาให้อียอลรึมได้เห็นโลกในอีกแบบ ทำให้เธอตัดสินใจทิ้งชีวิตสาวเมืองกรุงที่แสนเหน็ดเหนื่อยแล้วมาใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆที่ชื่อว่าอันกก แม้ในตอนแรกเธออาจจะดูแปลกแยกและไม่เป็นที่ยอมรับจากคนในหมู่บ้านสักเท่าไรนัก แต่สุดท้ายแล้วหลังจากที่ผ่านเรื่องราวต่างๆมากมาย ณ หมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้เธอก็ได้พบกับมิตรภาพจากคนหลากหลายวัย ได้เติบโตเข้าใจโลกมากขึ้น และได้ค้นพบว่าอะไรคือ “ความสุข” ในชีวิตของเธอ

มู้ดแอนด์โทนของเรื่องเมื่อดูไปเรื่อยๆ จะทำให้เรานึกถึง Home Town Cha-Cha-Cha แต่จะออกแนวกลางๆไม่ได้สดใสสุดๆหรือหม่นสุดๆแบบเรื่องนั้น แต่เค้าโครงก็คือคล้ายกัน นางเอกเป็นคนมีปมทีย้ายมาจากโซล ส่วนพระเอกเป็นคนในหมู่บ้านที่ดูเหมือนจะเคยมีชีวิตที่ดีแต่ก็มีปมบางอย่างที่ทำให้กลับมาติดแหง่กในหมู่บ้านแห่งนี้

การเล่าเรื่องที่ดูเหมือนจะเล่าไปเรื่อยๆไม่ได้หวือหวา แต่ระหว่างทางก็จะมีการจุดประเด็นต่างๆขึ้นมาให้เราได้ตามลุ้น ตามดู ตามเอาใจช่วย นางเอก พระเอก และคนต่างๆในหมู่บ้านอยู่เรื่อยๆในทุกๆตอน ดูไปดูมาก็จบ 12 ตอนในเวลาอันรวดเร็ว

ด้วยความที่เราดูโดยที่ไม่ได้รู้เรื่องย่อหรือแนวทางของเรื่องเลยสักนิด พอเข้าไปดูแบบหัวโล่งๆแล้วเห็นการลำดับเรื่องการผูกปมต่างๆแล้วเราก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่สนุกดีทีเดียว แถมภาพวิวทิวทัศน์ของเมืองอันกกก็ทำให้เราว้าวและไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนางเอกถึงตัดสินใจมาอยู่ที่เมืองนี้

“ฉันลองคิดว่าความสุขคืออะไร?

พอเปิดพจนานุกรม “ความสุข” คือ

ความพึงพอใจในชีวิตกับความปลาบปลื้ม ที่รู้สึกถึงความอิ่มใจและสภาวะทำนองนั้น…

คำนิยามก็จะประมาณนี้ ฉันมองว่ามันยาวเกินไป ก็เลยย่อให้สั้นลง

“ความสุข คือสภาวะที่ไม่ขาดอะไร”

ฉันลองนึกย้อนดู ฉันปั่นจักรยานฝ่าลมเย็นๆ

ตอนเช้าตรู่ ปั่นจนหนำใจก่อนพระอาทิตย์ขึ้น

อิ่มใจจัง เพียงพอแล้ว…

ฉันกลับมาบ้านและดื่มน้ำเพราะคอแห้ง

แล้วก็นึกถึงคำพูดของยายที่บอกว่า

น้ำเปล่าอร่อยที่สุดในโลก เป็นอย่างที่ว่าจริงๆ

เพียงพอแล้ว…

ระหว่างที่ตากผ้าอยู่ ฉันชอบเสียงพรึ่บๆ

ของเสื้อผ้า และชอบกลิ่นสบู่ที่ติดมือ

เพียงพอแล้ว…”

ถ้าใครยังไม่มีเรื่องอะไรให้ติดตามดู เรื่องนี้เป็นเรื่องนึงที่เราอยากแนะนำให้ดูค่ะ

Leave a comment